วันแรก |
ดอนเมือง-สนามบินเชไน ยะโฮบารู-สิงคโปร์ |
03.40 น. |
ทุกท่านพร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง สังเกตป้าย เที่ยวสนุกทัวร์ |
06.40 น. |
บินสู่ สนามบินเชไน ด้วยเที่ยวบินที่ FD512 |
09.55 น. |
เดินทางถึง สนามบินเชไน ยะโฮบารู จากนั้นนั่งรถข้ามด่านมาเลเซียสู่ ประเทศสิงคโปร์ |
จากนั้น |
พาคณะเที่ยวชม ประเทศสิงคโปร์ ในจุดต่างๆ ดังนี้ |
|
1.อุโมงค์ต้นไม้ที่ Fort Canning Park ซึ่งเป็นมุมถ่ายรูปที่มีฉากด้านบนเป็นต้นไม้ใหญ่ |
|
2. Suntec City หรือคนไทยเรียกวา น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง ให้ท่านเดินถ่ายรูปและอธิษฐานตามความเชื่อของแต่ละคน |
เที่ยง |
บริการอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร (1) |
บ่าย |
พาท่านชม สิงคโปร์ต่อดังนี้ |
|
3.เมอร์ไลอ้อน เป็นสัญญาลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของประเทศสิงคโปร์ให้ท่านถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
และเดินชมย่านเมอร์ไลอ้อน ซึ่งจะต่อเนื่องกับ ย่านคลาร์กคีย์ หรือย่านกลางคืนของประเทศสิงคโปร์นั้นเอง |
|
4.มาริน่าเบย์แซน เป็นทั้งห้างและคอมเพล็ก ซึ่งรวมร้านอาหาร คาซิโน ศูนย์ประชุม และด้านหลังของห้างจะเห็นวิวอ่าวมาริน่า ความโดดเด่นของมาริน่าเบแซน คือ ตึกที่เป็นรูปทรงเรือมองเห็นตั้งแต่ไกลๆ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของประเทศสิงคโปร์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวสิงคโปร์ |
|
5. Helix Bridge เป็นสะพานที่สร้างเชื่อต่อระหว่างมาริน่าเบย์แซนกับ เมอร์ไลอ้อนสิงคโปร์ยามค่ำคืนที่นี่จะเปิดไฟสีสรรสวยงามมากครับ และระหว่างเดินไปก็สามารถเห็น อาคารเอสพลานาด และสิงคโปร์ฟลายเออร์ เชิญถ่ายรูปไว้ได้ตามอัธยาศัย |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (2) |
19.00 น. |
ให้ท่านชม Spectra Show ซึ่งเป็นการชมแสงสี เสียง และดนตรี ที่อ่าวมาริน่า (ให้ชมฟรี บ้างวัน หรือวันที่ฝนตกจะงดการแสดงนะครับ) |
พัก |
พาทุกท่านเข้าพัก ณ Hotel Chancellor หรือ ระดับเดียวกัน 4 ดาว |
วันที่สอง |
ซิตี้ทัวร์สิงคโปร์ |
07.00 น. |
บริการอาหารเช้า ณ ร้านอาหาร (3) |
08.30 น. |
พาท่านเที่ยว สิงคโปร์ ณ จุดต่างๆ ดังนี้ |
|
1.ฮาจิเลน เป็นย่านเดินชมวิวสวยๆ อาคารสวยๆ ซึ่งมีมุมถ่ายรูปกับอาคารและรูปวาดสวยๆเยอะ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านขนมทานเล่น ให้ท่านได้ลองชิมเยอะ |
|
2. Gardeb by the bay ซึ่งเป็นโดมริมแม่น้ำมาริน่าใกล้ๆ มองเห็นเกาะบาตัมของประเทศอินโดนีเซีย ท่านที่ไม่เข้าไปชมข้างในสามารถถ่ายรูปที่ต้นไม้มีกิ่งก้านสวยงาม สีสันสดใส
OPTIONAL TOUR
หากต้องการชม 2 โดมเพิ่ม 28 SGD หรือ 700 บาท/ท่าน ** โปรดแจ้งก่อนเดินทาง **
Flower Dome จะเป็นที่จัดแสดงพรรณไม้จากเขตร้อนชื้นแถบเมดิเตอร์เรเนียน มีต้นไม้ดัดยักษ์และปาล์มขวดมากมายให้เราได้ถ่ายรูป รวมถึงมีสวนจิ๋วน่ารัก ๆ ให้เราดูอีกด้วย เหมาะแก่การไปนั่งอ่านหนังสือ นั่งเล่นชิลๆ เพราะในเรือนกระจกจะติดแอร์ให้อากาศเย็นสบาย และมีกลิ่นหอมๆ ของดอกไม้และต้นไม้ฟุ้งกระจายไปทั้งโดม
Cloud Forest จะมีน้ำตกจำลองขนาดใหญ่ พร้อมด้วยพันธุ์พืชและพันธุ์ไม้ในเขตป่าดิบชื้นมากมาย ในโดมจะออกแบบเป็นทางเดิน โดยเราจะเดินขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุด แล้วเดินไล่ลงมาจนถึงชั้นล่างที่เป็นป่าหมอกสวยงามมาก |
จากนั้น |
เกาะเซ็ยโตซ่า ให้ท่านอิสระรับประทานอาหารกลางวัน ณ ศูนย์อาหาร Malaysian Food Street ซึ่งตั้งอยู่ที่ หน้าลูกโลกของ สิงคโปร์ยูนิเวอร์แซล |
|
OPTIONAL TOUR
SINGAPORE UNIVERSAL STUDIO (ยังไม่รวมในค่าทัวร์) ให้ท่านได้พบกับการแสดงสุดตระการตาและความสุข สนุกไม่รู้จบในที่เดียวที่ๆ คุณและครอบครัวจะได้พบและสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ ที่โลกยังต้องตะลึง เปิดฉากความสนุกกับยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ!! ที่แรกและที่เดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับเครื่องเล่น 24 ชนิดโดย18ชนิด เป็นเครื่องเล่นที่ออกแบบใหม่หรือดัดแปลงเพื่อที่นี่โดยเฉพาะ!!!แบ่งออกเป็น 7 โซน ได้แก่ ที่สุดของรถไฟเหาะรางคู่ทั้งหวาดเสียวและสูงที่สุดในโลก ด้วยระดับความสูง 42.5 เมตรโดยจำลองจากซีรี่ย์ชื่อดังแบทเทิลสตาร์ กาแล็กติกาซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นฝ่ายมนุษย์หรือฝ่ายวายร้ายไซลอน ก่อนลงมือฟาดฟันบนอากาศอย่างหวาดเสียวของแต่ละฝ่าย
สามารถเลือกซื้อ Optional Tour S.E.A. Aquarium เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเปิดใหม่ใหญ่ที่สุดในโลกกับ Marine Life Park (ไม่รวมค่าเข้า 38 SGD) ถูกจัดอันดับให้เป็นอควาเรียมใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยถูกออกแบบให้เป็นอุโมงค์ใต้น้ำ สามารถบรรจุน้ำเค็มได้กว่า 45 ล้านลิตร รวมสัตว์ทะเลกว่า 800 สายพันธุ์ รวบรวมสัตว์น้ำกว่า 100,000 ตัว ตกแต่งด้วยซากปรักหักพังของเรือ ภายในได้จำลองความอุดมสมบูรณ์ของทะเลต่างๆ ทั่วโลก |
จากนั้น |
ให้ท่านอิสระเดินชม และเที่ยว ย่านถนนออร์ชาร์ด ของสิงคโปร์ที่นี่มี สินค้าแบรนด์เนม และมีห้างให้เราเดินช้อปปิ้งได้อย่างไม่รู้เบื่อ หรือเลือกซื้อของฝากได้ที่ย่านนี้ |
เมื่อ |
ได้เวลาที่เหมาะสมพาคณะเดินทางกลับสู่ ยะโฮบารู |
เมื่อ |
ผ่านด่านมายังฝั่งมาเลเซียแล้ว |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (4) |
พัก |
เข้าพัก ณ New Yok Hotel JB |
วันที่สาม |
ยะโฮบารู-มะละกา-ปุตราจาย่า-KLCC-ตึกปิโตนัส-สะพานซาโลมา |
07.00 น. |
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (5) |
08.00 น. |
พาคณะเดินทางสู่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย |
|
พาคณะเดินทางต่อ และแวะชม เมืองมะละกา เป็นเมืองเอกของรัฐมะละกา ประเทศมาเลเซีย ในอดีตที่นี่เป็นเมืองท่าสำคัญที่เติบโตจนกลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดินเรือค้าขายระหว่างชาติตะวันตกและตะวันออก ต่อมามะละกาได้ตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตกทั้งโปรตุเกส, เนเธอร์แลนด์ และอังกฤษ อาคารในมะละกาจึงมีลักษณะของสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างศิลปกรรมท้องถิ่น
กับเจ้าอาณานิคมนั้น ๆ ซึ่งในปัจจุบันได้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2008 มะละกาและจอร์จทาวน์ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างเป็นทางการ เนื่องจากมีภูมิสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่ไม่ซ้ำใครทั้งในตะวันออกกลาง
และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (6) |
จากนั้น |
พาท่านเดินทางสู่ เมืองใหม่ปุตราจาย่า หรือชื่อทางการ ดินแดนสหพันธ์ปูตราจายา (Wilayah Persekutuan Putrajaya) เป็นเมืองใหม่และศูนย์กลางการปกครองของประเทศมาเลเซีย มีการย้ายที่ตั้งรัฐบาลจากกัวลาลัมเปอร์มายังปูตราจายาเมื่อปี ค.ศ. 1999 เนื่องจากความแออัดในเมืองหลวง โดยที่กัวลาลัมเปอร์ยังคงเป็นเมืองหลวงของมาเลเซีย และพระที่นั่งของสมเด็จพระราชาธิบดี ที่ตั้งของรัฐสภามาเลเซีย สถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศทุกแห่ง และศูนย์กลางทางการค้าและการเงินของประเทศ ยังคงอยู่ในกัวลาลัมเปอร์ ปูตราจายาเป็นแนวความคิดของนายกรัฐมนตรี มหาเธร์โมฮัมหมัด ได้รับฐานะเป็นดินแดนสหพันธ์แห่งที่สามของมาเลเซียเมื่อปี ค.ศ. 2001 ถัดจากกัวลาลัมเปอร์ และลาบวน |
จากนั้น |
ถ่ายรูปที่ ตึดแฝดปิโตนัส (Petronas Towers) พาทุกท่านมาถ่ายรูปยังมุมยอดฮิตสำหรับคนที่มาเที่ยวกรุงกัวลาลัมเปอร์ คือ ที่ตึกคู่ปิโตนัส เป็นหนึ่งในตึกแฝดที่เคยได้ชื่อว่ามีความสูงที่สุดในโลก เชื่อมต่อกันด้วยสะพานลอยฟ้า แต่ละตึกสูง 451.9 เมตร มี 88 ชั้น โดดเด่นสวยงามเหมาะสำหรับถ่ายภาพทั้งเวลากลางวันและกลางคืน หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) ประเทศมาเลเซีย |
และ |
ห้าง KLCC ซึ่งเป็นห้างที่ตั้งอยู่ในตึกปิโตนัส ที่นี่ถือเป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดของประเทศมาเลเซีย มีสินค้าแบนด์เนมมากมาย คนมาเลเซียเรียกที่นี่ว่า Suria KLCC Mall |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (7) |
จากนั้น |
พาทุกท่านไปถ่ายรูปจุดเช็คอินใหม่ของประเทศมาเลเซียที่ สะพานซาโลมา ตั้งอยู่ใกล้กับตึกปิโตนัสและห้างเคแอลซีซี |
พัก |
เข้าพัก ณ IBIS HOTEL KL หรือ PUDU PLAZA HOTEL |
วันที่สี่ |
ซิตี้ทัวร์กรุงกัวลาลัมเปอร์-สนามบินกัวลาลัมเปอร์-สนามบินดอนเมือง |
07.00 น. |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8) |
08.00 น. |
พาท่านเที่ยวสถานที่ต่างๆ ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ดังนี้ |
|
1.ลานเมอร์เดก้าสแควร์ หรือ ลานประกาศอิสรภาพ Dataran Merdeka เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของกรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) ประเทศมาเลเซีย เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ระลึกถึงการประกาศอิสรภาพของมาเลเซีย จุดเด่นของจัตุรัสนี้ คือ เสาธงชาติมาเลเซียที่สูงถึง 95 เมตร ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในโลก อาคารสุลต่านอับดุลซามัด สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2440 ตั้งชื่อตามพระนามของสุลต่านแห่งสลังงอร์ โดยใช้เป็นที่ทำการของหน่วยงานราชการในยุคที่อังกฤษเข้ามาปกครอง ต่อมารัฐบาลมาเลเซียใช้เป็นอาคารสำนักงานของศาลฎีกา อาคารสุลต่านอับดุลซามัค และ หอนาฬิกาสูง 40 เมตร เป็นตัวอาคารเก่าแถบ Merdeka Square ซึ่งเป็น สถาปัตยกรรมแบบมัวร์ (Moorish) ส่วนที่เป็นหอนาฬิกาสูง 40 เมตรทมักจะเรียกกันว่าเป็น บิ๊กเบนของมาเลเซีย ส่วนด้านบนจะเป็นโดมขนาดใหญ่สีทอง อาคารนี้สร้างเมื่อเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ เพื่อใช้เป็นศูนย์บริหารอาณานิคมของอังกฤษ ปัจจุบันใช้อาคารที่ทำการของรัฐบาล
เมอร์เดก้าสแควร์ ชนชาติตะวันตกปกครองมาเลเซียมานานประมาณ 446 ปี
ตั้งแต่ ค.ศ. 1511 1957 โดยเปลี่ยนประเทศที่ปกครองมาทั้งชาวโปรตุเกส ชาวดัทช์ และสุดท้ายปกครองโดยสหราชอาณาจักรก่อนจะประกาศอิสรภาพ ธงของสหราชอาณาจักรได้เปลี่ยนเป็นธงชาติมาเลเซียขึ้นสู่ยอดเสาที่
จตุรัสเมอร์เดก้า (Merdeka Square) เวลาเที่ยงคืน วันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 1957 นับแต่นั้นเป็นต้นมา สถานที่แห่งนี้ได้เป็นสถานที่สำหรับจัดพิธีสวนสนามและเฉลิมฉลองวันครบรอบ
การประกาศอิสรภาพของประเทศมาเลเซีย |
|
2.วัดถ้ำบาตู ซึ่งเป็นวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดของประเทศมาเลเซีย เป็นเขาหินปูนที่ภายในมีถ้ำและเทวาลัย
ตั้งอยู่ในอำเภอกมบัก รัฐเซอลาโงร์ ประเทศมาเลเซีย ชื่อของถ้ำมาจากคำภาษามลายู Batu แปลว่า หิน
ชื่อดั้งเดิมของเขาบาจูคือ กาปัลตังกัง (Kapal Tanggang) ซึ่งมาจากตำนานซีตังกัง |
|
3.พระราชวังอิสตาน่าเนการา
ซึ่งเป็นพระราชวังหลวงของประเทศมาเลเซีย เมื่อท่านสุลต่านได้รับเลือกให้เป็น พระราชาธิบดี ก็จะมาอยู่ที่พระราชวังแห่งนี้ เดิมทีพระราชวังอิสต้านาเนการังตั้งอยู่อีกทีหนึ่ง ตามประวัติ พระราชวังอิสตานา เนการา (Istana Negara Palace) สร้างขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ. 1928 เดิมใช้เป็นที่พักของเศรษฐีชาวจีนชื่อ Chan Wing เมื่อญี่ปุ่นบุกในช่วงปี ค.ศ. 1942 1945 สถานที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นที่ทำการของทหารญี่ปุ่น หลังญี่ปุ่นถอนกำลังไป
รัฐบาลเซอลาโงร์ (Selangor) ได้เข้ามาเป็นเจ้าของพระราชวังและบูรณะใหม่ให้กลายเป็นพระราชวังของ
Yang di Pertuan Agong กษัตริย์แห่งมาเลเซีย
ปัจจุบัน พระราชวังแห่งใหม่ของพระเทศมาเลเซียได้ถูกเปิดใช้งานเมื่อปี 2013 และได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปบริเวณด้านหน้าพระราชวัง
และบ้างครั้งหากมาเที่ยวช่วงเวลาเปลี่ยนเวรของทหารหน้าพระราชวัง
ท่านก็จะได้เห็นพิธีการเปลี่ยนเวรยามที่น่าตื่นเต้นด้วยครับ |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (9) |
จากนั้น |
ชม Wilayah Mosque หรือ Federal Territory Mosque มัสยิดที่สวยที่สุดใน
Kuala Lumpur
ก่อสร้างเมื่อปี 1998-2000 ตั้งอยู่ใกล้กับทำเนียบรัฐบาลของมาเลเซีย
ที่นี่เปิดให้เข้าชมเมื่อ 25 ตุลาคม 2000 เป็นมัสยิดลำดับที่ 44 ที่ก่อสร้างโดยรัฐบาบมาเลย์เซีย ซึ่งสามารถใช้ทำกิจกรรมทางศาสนา โดยสามารถจุคนเข้าทำพิธีได้ถึง 17,000 คน
สถาปัตยกรรมของ มัสยิด wilayah แห่งนี้ผสมผสานจากหลายอารยธรรมเข้าด้วยกัน Ottoman, Malaysia, Istulbul, Iran ซึ่งสถาปัตยกรรมที่สวยงามนี้โดนสร้างขึ้นด้วย หินอ่อน เซรามิก และแก้ว ทำให้สวยงามสมบูรณ์แบบ จึงได้ชื่อว่าเป็นมัสยิดที่สวยที่สุดใน KL |
|
พาคณะเดินทางออกจากโรงแรม แวะร้านช็อกโกแลต เพื่อซื้อขนมและช็อคโกแลคแท้จากโรงงานของประเทศมาเลเซีย เกรดส่งออก |
15.00 น. |
พาท่านเดินทางสู่ สนามบินกัวลาลัมเปอร์ KLIA |
19.15 น. |
ออกเดินทางสู่ สนามบินดอนเมือง ด้วยเที่ยวบินที่ AK888 |
20.30 น. |
คณะเดินทางถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ |